POSTCHILL.COM

6-8 เมษายน 2556 เพียง 8,900.- บาท
เชียงใหม่-อ.ปัว จ.น่าน - ตม.ห้วยโก๋น - ปากห้วยแคน – หลวงพระบาง
6 เมษายน 2556
00.30 น. ทีมงานคอยต้อนรับและบริการ ท่าน บริเวณหน้าสถานีขนส่งอาเขต จ.เชียงใหม่
01.00 น. เดินทางสู่อำเภอปัว จังหวัดน่าน อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
อาหารเช้า เดินทางถึง อ.ปัว จ.น่าน ให้ท่านได้รับประทานอาหารเช้า ณ อูปแก้วรีสอร์ท หรือเทียบเท่า
07.00 ออกเดินทางสู่ด่านตม.ห้วยโก๋น, ผ่านด่าน ตม.ห้วยโก๋น + ตม.น้ำเงิน แบบวีไอพี, เดินทางสู่ท่าเรือปากห้วยแคน, ล่องเรือสู่เมืองหลวงพระบาง
( ลูกค้าต่างจังหวัดที่ไม่ต้องการมาขึ้นรถที่เชียงใหม่ ท่าน สามารถขับรถไป อ.ปัว จ.น่าน โดยฝากรถไว้ที่ อูปแก้วรีสอร์ท
ซึ่งทางคณะจะถึงที่นี่ในเวลา 06.00 น. หรือซื้อตั๋วรถสมบัติทัวร์ กรุงเทพฯ-ปัว-กรุงเทพฯ )
อาหารกลางวัน บุปเฟ่ต์บนเรือ
รายการ แวะเที่ยวชม ถ้ำติ่ง ( ไกด์ รอรับที่ถ้ำติ่ง ) ถ้ำนี้เป็นศาสนสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของหลวงพระบาง ในอดีตเจ้ามหาชีวิตทุกพระองค์จะต้องเสด็จมาทำพิธีฮดสรง (สรงน้ำพระ) และฟังธรรมที่ถ้ำติ่งนี้ในวันสังขาร หรือวันสงกรานต์ เป็นประจำทุกปี ถือเป็นโบราณราชประเพณีของลาว ถ้ำติ่งมี 2 ชั้น คือ ถ้ำติ่งบนและถ้ำติ่งล่าง ทุกซอกทุกมุมในถ้ำนี้จะมีพระพุทธรูปน้อยใหญ่ขนาดต่างๆ กัน ทั้งที่ทำด้วยไม้และโลหะวางเรียงรายนับเป็นพันองค์ ทั้งนี้เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา พระพุทธรูปนี้สั่งสมมานับเป็นร้อย ๆ ปี
แวะเที่ยวชม บ้านซ่างไห ชุมชนริมน้ำโขง ที่มีประวัติการขุดพบหม้อไหโบราณกว่า 2,000 ปี แต่ปัจจุบันนี้มีอาชีพผลิตเหล้าพื้นเมืองขายจนเป็นที่เลื่องลือในรสชาติ
ล่องเรือสู่ท่าเรือหลวงพระบาง, ขึ้นท่าที่ ท่าเรือหลวง, เดินทางสู่ร้านอาหาร
อาหารค่ำ ร้านอาหาร
รายการ เช็คอินเข้าสู่ห้องพัก ณ วิลล่าดวงวิไลหรือเทียบเท่า อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย

7 เมษายน 2556
หลวงพระบาง
รายการ ทำบุญตักบาตรข้าวเหนียว ร่วมกับชาวหลวงพระบาง ทุก ๆ เช้าชาวหลวงพระบางจะพากันออกมา นั่งรอตักบาตรพระสงฆ์ ที่เรียงแถวเดินมาตามถนนเป็นร้อย ๆ รูป ซึ่งเป็นภาพยามเช้าที่มีชีวิตชีวาของหลวงพระบาง โดยสะท้อนถึงวิถีชีวิตของประเพณี ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาอย่างเหนียวแน่น หลายชั่วอายุคน ความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อพระพุทธศาสนา ที่หยั่งรากลึกลงในวัฒนธรรมของชาวล้านช้าง
เที่ยวชม วัดใหม่สุวรรณภูมาราม หรือเรียกสั้นๆ ว่าวัดใหม่ ซึ่งวัดนี้เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชองค์สุดท้ายของลาว และยังเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบางในสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินทรฤทธิ์ จนถึงปี พ.ศ.2437 จึงอัญเชิญไปประดิษฐานในหอพระบางภายในพระราชวัง วัดใหม่นี้ตั้งอยู่ที่ถนนศรีสว่างวงศ์ ใกล้กับพระราชวัง จุดเด่นของวัดคือพระอุโบสถมีลักษณะเป็นอาคารทรงโรง หลังคาขนาดใหญ่ต่างจากพระอุโบสถวัดอื่นๆ ที่เสาเป็นลายลงรักปิดทองสวยงาม ที่ผนังด้านหน้าพระอุโบสถเป็นภาพปูนปั้นนูนสูงลงรักปิดทองดูเหลืองโดดเด่นยาวตลอดผนัง เป็นภาพที่แสดงเรื่องเวสสันดรชาดก ส่วนผนังด้านล่างมีภาพสัตว์ชนิดต่างๆ
เที่ยวชม ตลาดเช้า ซึ่งมีสินค้าจำพวกของกินนานาชนิดให้เลือกซื้อหา พร้อมชมวิถีชีวิตของชาวหลวงพระบาง ท่านไหนที่ชอบลิ้มรส กาแฟ ก็มีร้านกาแฟ ประชานิยม ให้ท่านลิ้มรสกาแฟลาว คู่กับขนมปังฝรั่งเศส หรือ ปาท่องโก๋
อาหารเช้า โรงแรม
รายการ เที่ยวชม วัดวิชุนราช ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองหลวงพระบาง ถนนวิชุนราช สร้างขึ้นเมื่อ ปีพ.ศ. 2046 ในสมัยพระเจ้าวิชุนราช ในบรรดาวัดทั้งหมดในเมืองหลวงพระบางเป็นต้องยกนิ้วให้วัดวิชุนในเรื่องมีความแปลกที่พระธาตุรูปร่างโค้งมนเหมือนผลแตงโม และเจดีย์รูปทรงแปลกตานี้เอง ที่กระทรวงแถลงข่าวและวัฒนธรรมของลาวยกให้มีความสำคัญและความโดดเด่นของวัดวิชุน
วัดวิชุนราชนี้สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐาน พระบาง ซึ่งอาราธนามาจากเมืองเวียงคำ ภายในวัดวิชุนราชมีปทุมเจดีย์หรือพระธาตุดอกบัวใหญ่ ซึ่งพระนางพันตีนเชียง พระอัครมเหสีของพระเจ้าวิชุนราชโปรดฯให้สร้างขึ้นในพ.ศ. 2057 หลังจากสร้างวัดแล้ว 11 ปี ด้วยรูปทรงของเจดีย์มีลักษณะคล้ายแตงโมผ่าครึ่งทำให้ชาวเมืองหลวงพระบางเรียกว่า พระธาตุหมากโม เป็นทรงโอคว่ำ ยอดพระธาตุมีลักษณะคล้ายรัศมีแบบเปลวไฟของพระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย บริเวณมุมฐานชั้นกลางและชั้นบนมีเจดีย์ทิศทรงบัวตูมทั่งสี่มุม พระธาตุหมากโมนี้มีสีดำเก่าๆ แม้จะเคยผ่านการบูรณะปฎิสังขรมาแล้วสองครั้ง ในปีพ.ศ.2402 รัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินทร์(คำสุก) ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ อีก 19 ปีต่อมา ในปี พ.ศ.2457 ในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์มีการปฎิสังขรอีกครั้ง ซึ่งการบูรณะครั้งนี้พบโบราณวัตถุมากมาย เช่น เจดีย์ทองคำ พระพุทธรูปหล่อสำริด พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน โดยเฉพาะพระพุทธรูปที่แกะสลักจากแก้วซึ่งคล้ายกับพระแก้วมรกต โบราณวัตถุเหล่านี้ได้นำถวายเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และเก็บรักษาไว้ในพระราชวังหลวงพระบางในปัจจุบัน
เที่ยวชม วัดเชียงทอง ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวเมืองหลวงพระบาง ใกล้บริเวณที่แม่น้ำคานไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง มีถนนเล็กๆชื่อถนนโพธิสารราช ริมน้ำโขงคั่นอยู่ วัดเชียงทองสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2102 -2103 สมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ในบรรดาวัดวาอารามทั้งหมดต้องยกให้วัดเชียงทองเป็นวัดที่สำคัญและสวยงามที่สุด และได้รับการมาเยี่ยมเยือนจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด "นักโบราณคดียกย่องว่าวัดเชียงทองเป็นดั่งอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว" วัดเชียงทองสร้างขึ้นก่อนหน้าที่พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชจะย้ายเมืองหลวงไปยังนครเวียงจันทน์ไม่นานนัก และยังได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้ามหาชาติศรีสว่างวงศ์ และเจ้ามหาชาติศรีสว่างวัฒนา กษัตริย์สองพระองค์สุดท้ายของประเทศลาว
เที่ยวชม พิพิธภัณฑ์ อดีตเป็นพระราชวังหลวง ซึ่งเป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตลาว สร้างปี ค.ศ. 1904 (พ.ศ. 2447) โดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ออกแบบ ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์เมื่อปี ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2519) มีหอที่ประดิษฐานพระบาง พระพุทธรูปปางห้ามสมุทร สูง 1.14 เมตร หนัก 54 กิโลกรัม กล่าวกันว่าทำด้วยทองคำ 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหลวงพระบางและของชาวลาว ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมืองหลวงพระบาง เดิมเมืองนี้ชื่อเมืองขวา แล้วเปลี่ยนมาเป็น เชียงดง เชียงทอง ตามลำดับ
อาหารกลางวัน ร้านอาหาร
รายการ เที่ยวชม บ้านผานม หมู่บ้านทอผ้าของชาวไทลื้อที่อพยพมาจากสิบสองปันนา ในอดีตชาวไทลื้อที่หมู่บ้านนี้เป็นผู้ทอผ้าให้กับราชสำนัก ด้วยฝีมือการทอผ้าที่มีผลงานอันปราณีต ละเมียดละไม จึงอยากให้ท่านได้ลองสัมผัส ผ้าพื้นเมืองหลวงพระบาง ที่บ้านผานม สักครั้ง..
เที่ยวชม ตาดกวงชี ห่างจากหลวงพระบางไปประมาณ 30 กม. ผ่านหมู่บ้านชนบทริมสองข้างทาง ...ชมความงดงามของน้ำตก ซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่งของหลวงพระบาง โดยมีสายน้ำที่ลดหลั่นผ่านชั้นหินปูนลงสู่แอ่งน้ำที่สดใส มีทางเดินลัดเลาะขึ้นไปสู่ชั้นบนเพื่อชมความงามอีกมุมหนึ่งของน้ำตก ...ให้ท่านดื่มด่ำกับธรรมชาติ เล่นน้ำ และบันทึกภาพอันน่าประทับใจ
สักการะ พระธาตุพูสี พระธาตุนี้เปรียบได้กับเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองหลวงพระบาง ซึ่งไม่ว่าอยู่มุมไหนของเมืองก็สามารถมองเห็นพระธาตุสีเหลืองทองอร่าม ทอแสงเปล่งประกายยามเมื่อโดนแสงแดด มีตำนานเกี่ยวกับที่มาของพระธาตุพูสี ว่า มีฤๅษีสองพี่น้อง ชื่อ อามะละฤๅษี และโยทิกะฤๅษี ได้เดินทางออกเสาะแสวงหาที่ตั้งบ้านเมือง เมื่อเดินทางมาถึงที่แห่งนี้ เห็นว่ามีชัยภูมิดี เป็นที่ราบกว้างและมีเนินเขาอยู่ตรงกลาง จึงกำหนดให้เป็น ใจเมือง และกำหนดขอบเขตของเมือง คือ ทิศเหนือเอากกทอง สบคานเป็นเขต ทิศตะวันออกเอาพูซ้างพูซวงเป็นเขต ทิศใต้เอาน้ำดงเป็นเขต แล้วสร้างพระธาตุขึ้นไว้บนเขากลางใจเมือง ว่ากันว่าใครมาถึงหลวงพระบางแล้วไม่ได้ขึ้น ธาตุพูสี ก็เท่ากับไปไม่ถึงหลวงพระบาง
… พระธาตุพูสีมีความสูงประมาณ 100 เมตร มีทางขึ้นสองทาง เส้นทางที่นิยมใช้กันเป็นประจำคือ บันไดทางด้านหน้าทิศตะวันตก ตรงข้ามกับประตูพิพิธภัณฑ์พระราชวัง มีทั้งสิ้น 328 ขั้น เป็นบันไดที่ไม่ลาดชันนัก สำหรับชาวลาวที่มาแสวงบุญ และนักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปนมัสการพระธาตุ ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันออก เป็นทางบันไดชันขึ้นมาจากทางแม่น้ำคาน ผ่านวัดถ้ำพูสี เมื่อขึ้นถึงด้านบนพระธาตุสามารถมองเห็นเมืองหลวงพระบางได้รอบด้าน โดยเฉพาะช่วงเย็นพระธาตุพูสีเป็นอีกสถานที่ ที่สามารถชมพระอาทิตย์ตก ณ เมืองหลวงพระบางได้สวยงามอีกแห่งหนึ่ง
สำหรับงานประเพณีที่เกี่ยวข้องกับพระธาตุพูสี ในสมัยก่อนจะมีการย่ำกลอง หรือการตีกลองบอกเวลา จากบนพระธาตุพูสี ซึ่งจะตีทุก ๆ 1 ชั่วยาม หรือทุก ๆ 3 ชั่วโมง หรือถ้ามีเหตุการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ ข้าศึกโจมตี ก็จะมีการตีกลองเตือนแก่ประชาชนด้วย แต่ในปัจจุบันประเพณีการย่ำกลองนี้ได้เลิกไปนานแล้ว เหลือก็แต่ประเพณีตักบาตรพูสี ที่ยังมีการปฏิบัติในช่วงบุญปีใหม่ของทุกปี โดยการนำข้าวไปวางไว้ตามทางขึ้นพระธาตุ หรือเอาไปโปรยบริเวณพระธาตุเพื่อเป็นการให้ทานตามความเชื่อของชาวลาว
...พร้อมกันนั้น ให้ท่านได้ชม ความงามของเมืองหลวงพระบาง ยามเย็น และบันทึกภาพอันน่าประทับใจ ในยามพระอาทิตย์ตกดิน ณ เมืองหลวงพระบาง
อาหารค่ำ ร้านอาหาร
รายการ เที่ยวชม ตลาดมืด บริเวณถนนศรีสว่างวงศ์ ตั้งแต่หน้าพิพิธภัณฑ์จนสุดถนน ในบรรยากาศแบบหลวงพระบางยามราตรี อีกทั้งยังมีร้านเบเกอรี่ ต่างๆ เพื่อให้ท่านได้ชิมกาแฟ และขนมเค้กอันแสนอร่อยนานาชนิด
เข้าสู่ห้องพัก อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
8 เมษายน 2556
หลวงพระบาง - ปากห้วยแคน - ตม.ห้วยโก๋น – เชียงใหม่
รายการ 07.00 เดินทางสู่ท่าเรือ บ้านช่างไห, ลงเรือเดินทางกลับ
อาหารเช้า บนเรือ
รายการ -
อาหารกลางวัน บุปเฟ่บนเรือ
รายการ ขึ้นท่าที่ ท่าเรือปากห้วยแคน(ประมาณ 15.00 น.), เดินทางสู่ด่านตม.น้ำเงิน + ด่านตม.ห้วยโก๋น ผ่านด่านแบบวีไอพี, เดินทางกลับเชียงใหม่
อาหารค่ำ ร้านอาหาร อ.เมืองน่าน
รายการ เดินทางต่อ
23.00 น. เดินทางถึงเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพ

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศ

หมวดโฆษณา : แหล่งท่องเที่ยว

หมวดย่อย : โปรแกรมทัวร์

• วัตถุประสงค์การโฆษณา : ขาย
• ราคา : 8900 บาท
• วิธีส่งสินค้า : วิธีอื่น
• สภาพสินค้า : ของใหม่
• ไม่ระบุ

ข้อมูลผู้ลงประกาศ

ล่องเรือ สู่เมืองมรดกโลก...........หลวงพระบาง

• ชื่อผู้ประกาศ : swantravel
• สถานะ : บุคคลทั่วไป
• ที่อยู่ติดต่อ : B108-9 42/12 อาคารรริมน้ำแมนชั่น ถ.คลองชลประทาน ต.สุเทพ อ.เมือง เชียงใหม่ 50200
• เบอร์โทรศัพท์ : ไม่ระบุ
• เบอร์แฟกซ์ : ไม่ระบุ
• เบอร์มือถือ : ไม่ระบุ
• อีเมล์ : ไม่ระบุ
• จังหวัด : เชียงใหม่
• จำนวนคนเข้าชม : 356
• วันที่ 9/03/2013 เวลา 13:05 น.
• IP Address: 118.172.26.206

ร่วมแสดงความคิดเห็น